ทุนการศึกษา มูลนิธิโยนก

 
 

“มูลนิธิโยนก มอบทุนการศึกษาปี 2553”

    มูลนิธิ โยนกมอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยโยนกและมหาวิทยาลัยอื่นๆ ของรัฐ ดังเช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเชิญ อาจารย์มาร์ค ออปเปนไฮเมอร์ Mr.Mark Oppenheimer ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของมูลนิธิโยนกและอาจารย์ประจำหลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยโยนกเป็นประธาน


    มูลนิธิ โยนกเป็นมูลนิธิที่มีบทบาทและกิจกรรมในด้านการศึกษาและสาธารณประโยชน์มาก ที่สุด ด้านการพัฒนาที่ใหญ่ที่สุด มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีดร.นิรันดร์ จิวะสันติการ เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นกรรมการผู้อำนวยการมูลนิธิโยนก และมีดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นประธานมูลนิธิโยนก ผลงานสำคัญของมูลนิธิโยนก คือการก่อตั้งและเป็นผู้รับใบอนุญาตมหาวิทยาลัยโยนก การรณรงค์เพื่อการส่งเสริมการอ่านของจังหวัดลำปาง และกิจกรรมประจำปีที่สำคัญของมูลนิธิโยนก คือเรื่องการมอบทุนการศึกษา

    ความพิเศษของทุนการศึกษามูลนิธิโยนก จะให้การสนับสนุนแก่นักศึกษาผู้ยากไร้และขาดแคลนทุนทรัพย์ในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา

    มูลนิธิ โยนกมีปรัชญาและหลักคิดของการมอบทุนการศึกษาจากประสบการณ์ของดร.นิรันดร์ จิวะสันติการ ซึ่งเคยเป็นผู้รับทุนการศึกษาครั้งยังเยาว์ ขณะเป็นนักศึกษาอยู่ และจากการสังเกตของการให้ทุนการศึกษาของหลายสถาบันและการมอบทุนของมูลนิธิ ต่างๆ จึงได้นำข้อมูล ประสบการณ์เหล่านั้นมาเป็นแนวคิดและหลักเกณฑ์ในการมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิ โยนก

    ประการ แรกทุนการศึกษาของมูลนิธิโยนกจะเป็นทุนที่ยั่งยืนต่อเนื่องตลอดหลักสูตรการ ศึกษาในมหาวิทยาลัยทั้ง 4 ปี นักศึกษาและผู้ปกครองสามารถอุ่นใจได้ว่าจะได้รับการส่งเสริมโดยมีทุนการ ศึกษาตลอดหลักสูตรแต่จะมีการประเมินผลการเรียนและเงื่อนไขต่างๆ เพื่อ เป็นการประเมินคุณภาพ ตามเงื่อนไขของผู้รับทุน มีดังนี้ การรักษาคุณภาพและระดับคะแนนของผลการเรียน ที่นักศึกษาทุนจะได้รับการประเมินรวมทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ที่กำลังศึกษาอยู่ การบำเพ็ญประโยชน์โดยจะประเมินผลเป็นรายบุคคลในทุกภาคการศึกษา ประการต่อไปนักศึกษาทุนมูลนิธิโยนกจะต้องมีการพบปะกันตามนัดหมาย อย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อการพัฒนาภาวะผู้นำและการทำกิจกรรมอื่นๆ อาทิเช่น กิจกรรมการปลูกข้าวเพื่อรำลึกบุญคุณของชาวนา และกิจกรรมจัดค่ายการส่งเสริมการอ่าน เป็นต้น

เงื่อนไข อีกข้อหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่รับทุนในการให้จัดสรรงบประมาณจากทุน การศึกษาที่ได้รับ เพื่อซื้อหนังสือเรียนและหนังสืออ่านนอกห้องเรียนที่เป็นประโยชน์ และประการสุดท้าย นอกจากกิจกรรมต่างๆ แล้วทางมูลนิธิโยนก ยังมีกิจกรรมดีๆ โครงการที่จะเน้นพัฒนานักศึกษาทุนในเชิงวิชาการ โดยจะจัดหลักสูตรเสริมสร้างทักษะต่างๆ ให้แก่นักศึกษาทุนอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเรียนเสริมภาษาอังกฤษโดยอาจารย์สอนต่างประเทศ โครงการดินเนอร์ทอล์ก เปิดโลกทัศน์นักศึกษาทุนโดยเชิญผู้มีประสบการณ์มาบรรยายและเล่าเรื่อง ประสบการณ์ชีวิตในเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวให้แก่นักศึกษาทุกคน เป็นต้น

 

บทสัมภาษณ์นักศึกษาทุนมูลนิธิโยนก

        จากการบอก เล่าของนักศึกษาทุนโดยนางสาวกานต์ทอง ไทยธนสุกานต์ หรือน้องออย ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยโยนก ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิโยนกตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 จนถึงขณะนี้ น้องออยเล่าว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับทุนการศึกษานี้และทุนนี้จะเป็นทุนการศึกษาต่อเนื่อง ที่ให้ตลอดหลักสูตร 4 ปี ทำให้หนูได้มีส่วนช่วยในการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว พ่อแม่หนูดีใจมากที่หนูได้รับทุนจากท่านดร.นิรันดร์ จิวะสันติการ เพราะนอกจากจะได้รับทุนแล้ว ยังได้รับการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ โดยทางมูลนิธิโยนกจะมีโครงการหรือกิจกรรมที่หลากหลาย ส่งเสริมให้เรามีทักษะในการทำงาน เช่น กิจกรรมวันเด็กฝึกให้เรามีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น กิจกรรมวันคริสมาสต์ ทำให้เรากล้าแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ และการศึกษาดูงานตีกลองไทโกะ ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ การได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษกับ CSC English สอนโดยอาจารย์คิมเบอรี่ นอกจากนี้หนูยังมีส่วนร่วมในการต้อนรับแขกจากต่างประเทศทำให้เราได้พัฒนาในด้านภาษาอังกฤษ

        น้องออย ยังบอกอีกว่า เธอโชคดีมากที่เธอได้มารับทุนการศึกษานี้ เพราะทุนนี้เป็นทุนที่พิเศษกว่าทุนอื่นๆ เป็นทุนที่เราต้องทำตามสัญญาและเงื่อนไขบางประการ หากเราทำได้นั่นก็เป็นตัวเบ่งบอกแล้วว่าเราเป็นคนสม่ำเสมอไหม เป็นอย่างที่เราได้ให้สัญญาครั้งแรกไหมว่า เราจะทำตาม ถ้าเราทำได้เราก็ได้ในสิ่งที่เราต้องการ ก็เหมือนการที่เราได้อะไรมาแล้วก็ต้องมีของแลกเปลี่ยนกลับไป เช่น การที่เราได้รับทุนนี้ทำให้เราได้บำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นด้วย และอีกเงื่อนไขหนึ่งคือ การทำงาน 4ชั่วโมงและอ่านหนังสืออีก 2ชั่วโมงภายในหนึ่งสัปดาห์ ถือว่าเป็นเงื่อนไขที่ดี สำหรับการเป็นนักศึกษาทุน เพราะหลังจากการทำงานแล้วได้มานั่งอ่านหนังสือก็จะได้รับความรู้เพิ่มขึ้น ออยมองว่าทุนนี้ให้อะไรหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างแก่นักศึกทุนทั้งในด้านการเรียนรู้ ทำให้เรามีภาวะผู้นำที่สูงขึ้น ทำให้เรามองเห็นว่าเรามีข้อดีอย่างไรและข้อเสียอย่างไร ทำให้เรากล้าคิดและกล้าแสดงออก ออยอยากบอกว่า การเป็นนักศึกษาทุนมูลนิธิโยนกเป็นสิ่งที่สุดยอดมาก และขอขอบคุณมูลนิธิโยนกที่ได้ให้โอกาสดีๆ อย่างนี้ให้แก่ออยค่ะ




    และอีกบทสัมภาษณ์หนึ่งจากนางสาวอังศนา เชียงคำ หรือน้องกิ๊ก นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยโยนก น้องกิ๊กเล่าว่า เธอเป็นคนจังหวัดแพร่ มีพี่น้องทั้งหมด 2 คน เธอเป็นคนโตและมีน้องอีกหนึ่งคนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษา ทางบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรม จึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับทุนการศึกษานี้เพราะทุนนี้เป็นทุนที่ให้ ต่อเนื่องตลอดหลัดสูตร 4 และเราได้ช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว น้องกิ๊กยังเล่าต่ออีกว่า กิ๊กรู้จักทุนนี้ได้เพราะมีรุ่นพี่ที่เคยได้รับทุนนี้มาก่อน เขามาแนะนำว่าที่มูลนิธิโยนกนี้มีทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักศึกษาผู้ที่สนใจ ผลการเรียนเฉลี่ยระดับดีอย่างกิ๊กนี้น่าจะได้รับทุนของทางมูลนิธิ กิ๊กจึงตัดสินใจขอทุนนี้ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 และก็ได้รับโอกาสนี้ ทำให้เราได้มาพัฒนาศักยภาพจากโครงการและ กิจกรรมต่างของทางมูลนิธิโยนกจัดขึ้น ทำให้เราได้ประสบการณ์จาการทำงานจากที่ไม่เคยได้เรียนรู้ก็ทำให้เราได้เรียน รู้ได้รู้จัก ทำให้เรามีมนุษยสัมพันธ์ดี ทำให้เรากล้าคิดกล้าทำ กล้าแสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความเป็นผู้นำ      

    นอกจาก นี้ทางมูลนิธิโยนกยังทำให้เราเป็นคนมีความรับผิดชอบ รู้จักบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่สังคม ทำให้เรารู้จักการมีน้ำใจต่อบุคคลรอบข้าง จากกิจกรรมที่กิ๊กได้เข้าร่วมอย่างเช่น กิจกรรมงานวันเด็ก กิจกรรมคริสมาสต์ กิจกรรมไทโกะ กิจกรรมปลูกข้าวปลูกใจ กิจกรรมของทาง CSC และ การได้ช่วยเหลืองานอื่นๆ ของทางมูลนิธิทำให้กิ๊กรู้สึกว่ากิ๊กโชคดีมากที่ได้มาเรียนที่นี่ ได้รับโอกาสดีๆ อย่างนี้และอยากจะบอกทุนดีๆ แบบนี้ให้รุ่นน้องต่อไปค่ะ